viagra and alcohol สองอย่างนี้กินร่วมกันได้หรือไม่

ยาไวอากร้า ออกฤทธิ์อย่างไร

ก่อนจะไปรู้ว่า viagra and alcohol นั้น กินร่วมกันได้หรือไม่ เรามารู้จักกับยาไวอากร้าให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า สรรพคุณของยาไวอากร้า หรือซิลเดนาฟิล ตัวยาที่อยู่ในไวอากร้านั้น จะออกฤทธิ์ด้วยการกักเลือดที่ไหลไปเลี้ยงอวัยวะเพศชาย ให้มีการขยายตัวของหลอดเลือดในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัวขึ้นได้ และมีระยะเวลายาวนานได้เพียงพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นานประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ไม่ควรกินเกินวันละหนึ่งครั้ง เพราะจะเกิดผลข้างเคียงได้ และไม่ใช่ทุกคนที่ไวอากร้าจะออกฤทธิ์ได้ผลดีอยู่เสมอ เพราะบางคนร่างกายก็ต่อต้านฤทธิ์ของยา รวมถึงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้น อาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

ใช้ยาไวอากร้าอย่างไรให้ปลอดภัย

ปกติแล้วยาไวอากร้า หากใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ก็จัดว่ามีความปลอดภัย โดยเฉพาะหากได้รับคำแนะนำจากแพทย์และใช้ยาตามคำแนะนำ ซึ่งยาไวอากร้าจะมีผลข้างเคียงทั้งแบบรุนแรง และแบบไม่รุนแรง เพราะฉะนั้น ก่อนใช้ยา ต้องศึกษาข้อบ่งชี้ให้ดีก่อนว่า ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง และเราสามารถใช้ยาได้หรือไม่ ดังนี้

1. หากมีอาการป่วยบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดัน อาจไม่ปลอดภัยในการใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

2. หากรักษาอาการโรคหัวใจอยู่ ด้วยการใช้ยาในกลุ่มไนเตรตอยู่นั้น ไม่ควรใช้ยาไวอากร้าเด็ดขาด

3. ไวอากร้าได้รับการรับรองให้ใช้กับผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไป หากอายุน้อยกว่า 18 ปี ไม่ควรใช้ เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิผลของไวอากร้า ในการใช้ในกลุ่มคนอายุนี้ 

ไวอากร้าได้ผลในครั้งแรกที่ใช้หรือไม่

ในคนส่วนใหญ่เมื่อใช้ไวอากร้า มักจะได้ผลในครั้งแรกที่ใช้ แต่ในสำหรับบางคนอาจต้องใช้เวลา 2-3 ครั้ง ในการลองใช้ยาให้ได้ผลตามต้องการ เนื่องจากยาแต่ละตัวก็อาจจะออกฤทธิ์กับแต่ละคนที่แตกต่างกันไป เพราะขึ้นอยู่ปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสุขภาพ ปริมาณของยาที่ใช้ การเผาผลาญของร่างกาย เป็นต้น แต่เพื่อความปลอดภัยไม่ควรกินยาไวอากร้ามากกว่าหนึ่งครั้งในเวลาทุก ๆ 24 ชั่วโมง และหากดูเหมือนว่าไวอากร้าจะไม่ได้ผล ให้ลองปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเพิ่มปริมาณยาหรือแนะนำให้ลองใช้ยาตัวอื่นแทน 

viagra and alcohol กินร่วมกันได้หรือไม่

แม้ว่าจะไม่ได้มีคำเตือนจากผู้ผลิตไวอากร้าว่าสามารถดื่มแอลกอฮอล์ขณะใช้ยานี้ได้หรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้วควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ ร่วมกับการใช้ยาไวอากร้าจะดีกว่า เนื่องจากผลข้างเคียงบางอย่างของไวอากร้านั้นอาจแย่ลงกว่าเดิมด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ซึ่งรวมถึงผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะ หน้าแดง และเวียนศีรษะด้วย นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ ยังส่งผลให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศนั้นแข็งตัวได้ยากขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องหันมาพึ่งยาไวอากร้านั่นเอง แต่หากว่าต้องการดื่มแอลกอฮอล์ขณะใช้ยาไวอากร้า ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่ปลอดภัยที่สามารถดื่มในขณะที่กินยาไวอากร้าร่วมด้วย 

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการออกฤทธิ์ของไวอากร้า

นอกไปจาก viagra and alcohol ที่ต้องควรระวังในการใช้ร่วมกันแล้วนั้น เพราะมีผลต่อประสิทธิภาพของยาไวอากร้า นอกจากนี้แล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของยาไวอากร้าด้วย ดังนี้ 

1. ปริมาณยาที่ใช้ ซึ่งปริมาณของยาไวอากร้าที่ใช้นั้น ย่อมส่งผลกับการออกฤทธิ์ โดยปริมาณยาที่น้อยที่สุดคือ 25 มิลลิกรัมนั้น จะออกฤทธิ์ได้น้อยกว่าปริมาณยาที่มากที่สุดคือ 100 มิลลิกรัม แต่ทั้งนี้การเลือกใช้ปริมาณยา ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของวัย และโรคที่เป็นด้วย ไม่ควรใช้มากเกินกว่าที่ควรได้รับ เพราะจะส่งผลต่ออันตรายต่อชีวิตได้

2. อายุ อายุเป็นปัจจัยสำคัญในการออกฤทธิ์ของยาไวอากร้าด้วย เพราะเมื่ออายุมากขึ้น การเผาผลาญของร่างกายก็จะช้าลง ทำให้ยาสามารถออกฤทธิ์ได้นานในคนสูงอายุ เพราะมีการเผาผลาญช้านั่นเอง

3. อาหาร หากกินอาหารที่มีไขมันสูงก่อนจะใช้ยาไวอากร้านั้น ก็จะไปช่วยให้การเผาผลาญช้าลง ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเผาผลาญอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็จะไปส่งผลให้ยาไวอากร้าออกฤทธิ์ได้ยาวนานขึ้น รวมไปถึงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะ viagra and alcohol นั้น ถ้ากินร่วมกัน แอลกอฮอล์จะไปลดการไหลเวียนของเลือดที่ไปยังอวัยวะเพศชาย ทำให้ไวอากร้ามีประสิทธิภาพลดลง หรือออกฤทธิ์ได้น้อยลงนั่นเอง

4. สุขภาพร่างกาย เนื่องจากว่าโรคบางอย่าง สามารถส่งผลกระทบกับการออกฤทธิ์ของยาไวอากร้าได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท และโรคที่เกี่ยวกับระบบหัวใจ โรคเหล่านี้จะมีส่วนทำให้ยาไวอากร้ามีประสิทธิภาพที่ลดลงได้ โดยเฉพาะหากมีการใช้ร่วมกับยารักษาโรคต่าง ๆ เหล่านี้ด้วย

5. สภาวะทางจิตใจ นอกไปจากสภาวะทางร่างกายแล้ว สภาวะทางจิตใจก็มีผลต่อระยะเวลาของการออกฤทธิ์ของยาไวอากร้าด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาการวิตกกังวล กระวนกระวายใจ มีภาวะซึมเศร้า หรือแม้แต่มีอาการเครียด ทั้งหมดนี้สามารถส่งผลต่อการตอบสนองของร่างกายกับการถูกกระตุ้นทางเพศได้ ซึ่งหากเรามีปัญหาในเรื่องของจิตใจ และไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายขณะกำลังจะมีเพศสัมพันธ์ ยาไวอากร้าก็จะออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ 

ปริมาณของยาไวอากร้าที่แนะนำ

การใช้ปริมาณไวอากร้าที่แพทย์กำหนดนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้

- อายุ

- ปัญหาเกี่ยวกับตับหรือไต

- การใช้ยาอื่น ๆ อยู่ 

ซึ่งปริมาณสำหรับใช้ในการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) คือ 50 มิลลิกรัม สามารถกินยานี้ได้ในช่วงระยะเวลา 30 นาที ถึง 4 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีกิจกรรมทางเพศ แต่สำหรับคนทั่วไป แนะนำให้กินยาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้หากยาไวอากร้าไม่ได้ผลสำหรับคุณ อาจมีการเพิ่มปริมาณยาได้ ซึ่งปริมาณสูงสุดของไวอากร้าคือ 100 มิลลิกรัม แต่ไม่ควรกินเกินจากนี้ และไม่ควรกินไวอากร้าเกินวันละครั้งอีกด้วย เพราะจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ 

ไวอากร้าช่วยลดอาการหลั่งเร็วจริงหรือ?

ยาไวอากร้าสามารถช่วยให้ผู้ชายที่มีอาการหลั่งเร็ว หรือ Premature ejaculation (PE) ให้มีการชะลอการหลั่งได้นานกว่าปกติได้ โดยที่ไม่ต้องทำการรักษา ซึ่งกลุ่มยาที่ชื่อว่า PDE5 นั้นจะได้ผลดีที่สุดกับคนที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ ED ร่วมด้วยรวมไปถึงยังพบว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมีเพศสัมพันธ์นั้น ในบางคนอาจมีส่วนช่วยในการชะลอการหลั่งได้ แต่ก็จะไปมีผลกับเรื่องของการแข็งตัวของอวัยวะเพศ และมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาไวอากร้าด้วย เพราะฉะนั้น หากต้องการกินยาไวอากร้าเพื่อรักษาอาการ PE นั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อน 

การจะกินยาไวอากร้าเพื่อช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัว หรือช่วยรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น เพื่อให้ได้ผลในการรักษา ก็ควรกินให้ถูกต้อง และถ้าเป็นไปได้ viagra and alcohol ก็ไม่ควรกินร่วมกันจะดีที่สุด เพราะจะทำให้การออกฤทธิ์ของยาไวอากร้าลดประสิทธิภาพลงนั่นเอง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังส่งผลให้อวัยวะเพศแข็งตัวยากอีกด้วย ถ้าสามารถงดการดื่มแอลกอฮอล์ได้ในชีวิตประจำวัน ก็อาจจะทำให้คุณไม่ต้องประสบกับปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยนั่นเอง